เมื่อปีที่แล้ว Tesla บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของเจ้าพ่อเทคโนโลยียุคปัจจุบันอย่าง Elon Musk ได้ประกาศเปิดตัวโครงการประกันภัยรถยนต์ที่ชื่อว่า Tesla Insurance ออกมาเพื่อสร้างความคุ้มครองให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าค่ายตัวเอง ซึ่ง Tesla ก็ระบุไว้อีกด้วยว่า อัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์นี้นั้นจะถูกกว่าของบริษัทประกันอื่น ๆ ถึง 20% - 30% เลยทีเดียว ถ้าเทียบที่ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน โดยในปัจจุบันนี้ โมเดลที่สามารถซื้อประกันภัยประเภทนี้ได้ก็คือ Model S, Model X, Model 3 และ Roadster ที่ซื้อในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น โดยสามารถซื้อประกันแบบออนไลน์ได้เลย ภายในเวลาแค่นาทีเดียว! (ตามที่ Tesla Insurance ประกาศไว้ในหน้าเว็บไซต์) แถมยังมีแพคเกจให้สามารถจ่ายเบี้ยรายเดือนด้วย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม แน่นอนว่า สาเหตุหลักที่ Tesla Insurance สามารถทำอัตราเบี้ยประกันได้ถูกลงมากแบบนั้น ก็เป็นเพราะว่าตัว Tesla เอง รู้จักรถยนต์ของตัวเองเป็นอย่างดี รู้จักศักยภาพของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอย่างทะลุปรุโปร่ง พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติไร้คนขับที่จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ รู้จักต้นทุนอะไหล่และค่าซ่อมแซมชิ้นส่วนรถยนต์ทุกชิ้นแบบแม่นยำ และที่สำคัญ รู้จักแม้กระทั้งพฤติกรรมของตัวผู้ขับขี่ ที่แสดงออกมาในลักษณะของนิสัยบนท้องถนน และสภาพแวดล้อมในขณะขับขี่และขณะเกิดเหตุที่ชัดเจน ทำให้หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ Tesla ที่ขับขี่ดี ไม่มีประวัติเสียหรือพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยแล้วล่ะก็ เบี้ยประกันภัยในอนาคตของคุณก็อาจจะมีโอกาสถูกลงไปยิ่งกว่าเดิมได้อีก และด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ ทำให้ Tesla สามารถที่จะใช้ Big Data นี้ มาใช้ประกอบการคำนวณอัตราค่าสินไหมทดแทนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ประเมินมูลค่าความเสียหายได้อย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา พร้อมด้วยหลักฐานการพิจารณาแบบครบถ้วนละเอียดยิบ ทำให้สามารถควบคุมอัตราส่วนค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ยประกันภัยหรือ Loss Ratio ของตัวเองได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกันภัยอื่นที่จะต้องใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ประกันภัยแบบทั่วไปที่ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ลึกถึงบางปัจจัยเช่น สภาพแวดล้อมของการขับขี่ที่แตกต่างกันในแต่ละสถานที่และแต่ละเวลา หรือพฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันภัยได้เลย ทำให้ตอนนี้ Tesla ไม่เพียงแค่สร้างผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าสามารถจ่ายเบี้ยต่ำลงพร้อมความคุ้มครองเต็มที่ได้แบบฟิน ๆ กันไปแล้ว และยังสามารถสร้างเป็นรายได้ทางอื่นของเครือธุรกิจที่มากขึ้นจากส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจประกันภัย นอกเหนือไปจากรายได้ทางตรงจากการขายรถยนต์ เป็นอีกช่องทางธุรกิจหนึ่งที่จะสร้างความยั่งยืนด้านกระแสเงินสดให้กับเครือบริษัท แต่สิ่งที่ลึกกว่านั้นอีกชั้นหนึ่ง คือ Tesla เองก็มีแผนที่จะขยายส่วนงานประกันภัยนี้จนแตกออกไปเป็นบริษัทประกันวินาศภัยในเครือ ที่สามารถพิจารณารับประกันภัยเองให้กับเจ้าของรถยนต์ Tesla (หรืออาจจะมียี่ห้ออื่น ๆ ด้วย) ที่พร้อมจะเป็นผู้เอาประกันภัยจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งหากโมเดลธุรกิจนี้เป็นไปได้ดี และเมื่อเวลานั้นมาถึง Tesla ก็จะมี "ถังเงินสด" ขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้นมาอีกช่องทางหนึ่งด้วยเช่นกัน "ถังเงินสด" ที่ว่านั้น ก็คือ Insurance Float หรือส่วนต่างระหว่างเบี้ยประกันภัยที่รับมา กับค่าสินไหมที่ต้องเตรียมจ่ายออกไปชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดเหตุ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเงินสดจำนวนมากที่ Tesla เอง สามารถนำไปใช้ต่อยอดขยายการลงทุนต่อได้อีก ในแบบเดียวกับที่นักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffett ได้เคยใช้โมเดลธุรกิจอันชาญฉลาดอย่างด้วยแนวคิด "collect-now, pay-later" จากการลงทุนในบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เช่น GEICO และ General Re เพื่อนำ "เงินคนอื่น" มาลงทุนต่อยอดใน Berkshire Hathaway จนกลายเป็นบริษัทที่นักลงทุนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ประกอบกันทั้งความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้านภาระค่าสินไหมทดแทนด้วยฐานข้อมูลเชิงลึกแบบเฉพาะเจาะจงจำนวนมหาศาล ทำให้มีโอกาสสูงที่ Tesla จะมี Insurance Float หรือถัง "เงินคนอื่น" ที่เป็นบวก จนทำให้สามารถมีแหล่งเงินทุนของตัวเอง เพื่อขยายธุรกิจของเครือต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในยุคที่ Tesla และ Elon Musk เองนั้น ก็จะกลายเป็นเจ้าพ่อทางเทคโนโลยีด้านการคมนาคมขนส่งในหลาย ๆ ทาง ไม่ใช่แค่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยเช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา WIN-WIN Strategy ที่เฉียบคมและหลักแหลมมากในยุคปัจจุบันนี้ #talktoKasidis #TESLA ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.tesla.com/insurance อ่านเพิ่มเติม https://www.cnbc.com/2019/09/18/tesla-wants-your-car-insurance-business-it-may-not-save-you-money.html https://www.businessinsider.com/warren-buffett-insurance-float-2017-4 https://www.blognone.com/node/111593 ปล. สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ใน Form 10-K และ Quarterly Update ของ Tesla ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 มีการพูดถึงการเปิดตัว Tesla Insurance และบันทึกรายได้จากการขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เข้าไปด้วยแล้ว https://ir.tesla.com/financial-information/quarterly-results
top of page
bottom of page
Comments