top of page

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท สยาม เว็ลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด

ปรับปรุงล่าสุด ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

 

   บริษัท สยาม เว็ลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด (“บริษัท”) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาและบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การจัดทำแผนการเงิน โดยอ้างอิงจากเป้าหมายที่ผู้รับบริการกำหนด รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหมาะสมแก่ผู้รับบริการ (“บริการ”) รับประกันแก่ท่านว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ (“ผู้รับบริการ”) ซึ่งหมายความรวมถึง บุคคลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ บุคคลที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ และ/หรือใช้บริการของบริษัททั้งหมด ดังนั้น บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีจุดประสงค์จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ผู้รับบริการทราบ เกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ เพื่อการให้บริการของบริษัท

   การตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว การที่ผู้รับบริการตกลงเข้าใช้บริการทุกประเภทของบริษัท ทางบริษัทจะถือว่า ผู้รับ บริการยอมรับว่า ได้อ่าน ทำความเข้าใจ และยอมรับเงื่อนไขตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้โดยสมบูรณ์แล้ว

ขอบเขตการบังคับใช้ของนโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทที่ดำเนินการเพื่อการให้บริการ แก่ผู้รับบริการเท่านั้น ไม่มีผลบังคับใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่อาจเชื่อมโยงต่อเนื่องจากการให้บริการของบริษัท (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดก็ตามที่ผู้รับบริการตกลงใช้บริการ) เนื่องจากการดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวไม่อยู่ในวิสัยที่บริษัทจะสามารถควบคุมหรือรับประกันได้ ดังนั้นในการติดต่อใช้บริการระหว่างผู้รับบริการ และบริษัทภายนอกดังกล่าวเป็นส่วนที่ผู้รับบริการต้องศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทภายนอกดังกล่าวแยกต่างหากจากนโยบายฉบับนี้

   การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและรูปแบบการติดต่อ การให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ผู้รับบริการ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท โดยการที่ผู้รับบริการยังคงใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บริษัทจะถือว่าผู้รับบริการตกลงยอมรับตามนโยบายฉบับปรับปรุงแล้วเสมอ

 

แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

   บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ ดังนี้ (1) ได้รับโดยตรงจากผู้รับบริการ ซึ่งนำส่งมายังบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ อีเมล corporate website หรือ Social Media (Line, Facebook) (ข) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ ด้วยระบบของบริษัทเมื่อผู้รับบริการเข้าชมเว็บไซต์ (ค) การที่ผู้รับบริการกรอก นำส่งข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบฟอร์มอื่นใดเพื่อประกอบ และ/หรือเข้าทำสัญญาเพื่อใช้บริการของบริษัท และ (2) ได้รับจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึง พันธมิตรทางการค้าอื่นของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่บริษัท ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงแหล่งที่มาของข้อมูล

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

   เพื่อการให้บริการให้แก่ ผู้รับบริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ ดังต่อไปนี้

   1. ข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการติดต่อของผู้รับบริการ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ หรือ social media account (LINE, Facebook Account)

   2. ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของผู้รับบริการที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของผู้รับบริการ และหน้าเพจอื่นๆ ที่ผู้รับบริการส่งมายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, Hato Hubและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์ รวมถึงข้อมูล cookies ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ Cookies หลายประเภท เพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

  • Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็น Cookies ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเว็บไซต์ของบริษัทและการให้บริการแก่ผู้ใช้งานในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย

  • Functionality Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำสิ่งที่ผู้รับบริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์ของบริษัท เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา font และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้รับบริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้

  • Performance Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอก ที่จะทำหน้าที่ให้บริการประเมินวิเคราะห์การทำงานของบริษัท และ

  • Advertising Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ในการจดจำสิ่งที่ผู้รับบริการเคยเยี่ยมชม รวมถึงลักษณะการใช้เว็บไซต์ของบริษัท เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้รับบริการ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอกที่จะทำหน้าที่ให้บริการให้แก่บริษัท

   3. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ ซึ่งรวมถึง

  • ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บจากแบบฟอร์มรวบรวมข้อมูลของผู้รับบริการ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลดังนี้ (ก) ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน กระแสเงินสดรับ กระแสเงินสดจ่าย รวมถึง (ข) ข้อมูลอื่นที่อาจเกี่ยวข้องและจำเป็น ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลงานอดิเรก ข้อมูลสุขภาพ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดเป้าหมายทางการเงินของผู้รับบริการ (ค) เป้าหมายในการวางแผนทางการเงินของผู้รับบริการ ซึ่งบริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวตามแบบฟอร์มมาตรฐานเพื่อการเริ่มใช้บริการของผู้รับบริการแต่ละท่าน

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัวของผู้รับบริการที่อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงินและการให้บริการ ทั้งนี้เมื่อผู้รับบริการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลภายนอกอื่นให้แก่ บริษัท บริษัทจะถือว่า ผู้รับบริการให้การรับประกันเกี่ยวกับสิทธิและความชอบด้วยกฎหมายในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของบุคคลภายนอกดังกล่าวให้แก่ บริษัทเพื่อการใช้บริการทันที

  • ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดทำและลงนามในสัญญาโดยเฉพาะเพื่อการจัดทำสัญญาการใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บริษัทหรือนักวางแผนทางการเงินอาจแนะนำ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสำเนาเอกสารแสดงตนของผู้รับบริการ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น

  • ข้อมูลการชำระเงินค่าบริการที่ชำระให้แก่บริษัท หรือให้แก่พันธมิตรของบริษัท โดยเฉพาะเพื่อการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินตามคำแนะนำของบริษัทหรือนักวางแผนการเงิน ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลหน้าบัญชีธนาคาร รวมถึงหลักฐานการชำระเงินอื่น และอาจรวมถึงข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี (ถ้าจำเป็น)

  • ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นที่อาจมีการปรึกษาหารือและให้เพิ่มเติมระหว่างการให้คำแนะนำ การให้บริการ หรือการสนทนาแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้รับบริการ และบริษัท และ/หรือนักวางแผนการเงินที่อยู่ภายใต้สังกัดของบริษัท

   4. ข้อมูลธุรกรรมการใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินที่นักวางแผนทางการเงิน หรือบริษัทจัดทำขึ้นโดยอ้างอิงจากข้อมูลพื้นฐานของผู้รับบริการ ข้อมูลแผนการเงินที่มีการนำเสนอและมีการปรึกษาหารือกันระหว่างบริษัท นักวางแผนการเงิน และผู้รับบริการ และข้อมูลการสั่งซื้อรวมถึงการชำระค่าใช้จ่ายในการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือการใช้สิทธิประโยชน์ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่ผู้รับบริการอาจดำเนินการ โดยสื่อสาร และได้รับการประสานงานโดยบริษัทหรือนักวางแผนการเงินภายใต้สังกัดของบริษัท

   5. ข้อมูลการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้รับบริการและบริษัท ได้แก่ บันทึกข้อมูลสนทนา และการสื่อสาร ผ่านหลากหลายช่องทางการให้บริการของบริษัท เช่น โทรศัพท์ อีเมล corporate website  และช่องทาง Social Media อื่น และรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลความพึงพอใจการใช้บริการ ข้อมูลการร้องเรียน หรือการให้ความเห็นต่าง ๆ หรือการติดต่อเพื่อรับบริการสนับสนุนอื่น หรือข้อมูลที่ผู้รับบริการอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ของบริษัทที่ผู้รับบริการอาจให้ความสนใจเข้าร่วม

 

วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

   บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และเป็นระยะเวลา ดังนี้:

  1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ เพื่อจุดประสงค์ ดังนี้

    • การตอบคำถาม การตอบกลับ หรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ผู้รับบริการอาจแจ้งมา ยังบริษัท รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอบริการตามที่ผู้รับบริการร้องขอ และการประสานงานเพื่อการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้แพ็กเกจการให้บริการ และทำสัญญาการให้บริการแก่บริษัท

    • การปฏิบัติตามสัญญาการให้บริการที่ผู้รับบริการและบริษัทเป็นคู่สัญญาระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การตรวจสอบการชำระค่าบริการ การให้บริการวิเคราะห์ และวางแผนการเงิน รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และการให้บริการในการนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่ ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผู้รับบริการตัดสินใจเลือกใช้เพื่อดำเนินการให้การซื้อและใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวดำเนินการได้สำเร็จ

    • การดำเนินการตามคำขอเพิ่มเติมที่ผู้รับบริการอาจแจ้งมายังบริษัท รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ที่ผู้รับบริการอาจเข้าร่วม

  2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท

  3. เพื่อการรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิของผู้รับบริการ ในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่

    • การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับผู้รับบริการ ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทั้งหมดของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การฝึกอบรม

    • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ เพื่อการติดตามตรวจสอบ และการควบคุมภายในโดยเฉพาะในการให้บริการของนักวางแผนการเงินภายใต้สังกัดของบริษัท หรือการใช้บริการของผู้รับบริการที่ไม่ถูกต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทกำหนด

    • การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงการทำงาน การให้บริการ การออกแบบแพ็กเกจการให้บริการ การประสานงานติดต่อและการทำงานในรูปแบบใหม่ รวมถึงการจัดกลุ่มของผู้รับบริการเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้รับบริการต่อเนื่อง

    • การใช้คำเห็นและความพึงพอใจของผู้รับบริการ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นที่บริษัทอาจมี

    • การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่างบริษัทและผู้รับบริการ

  4. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้รับบริการ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผู้รับบริการให้ความยินยอมเฉพาะ ทั้งนี้ ผู้รับบริการมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของผู้รับบริการที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา แต่การถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

    • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจถือเป็น ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว โดยเฉพาะ ข้อมูลสุขภาพของผู้รับบริการ ทั้งนี้ บริษัทขอชี้แจงให้ผู้รับบริการทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับการให้บริการแก่ ผู้รับบริการ ดังนั้นหากผู้รับบริการไม่ยินยอมให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทสงวนสิทธิในการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวแก่ ผู้รับบริการ

    • การใช้ Cookies (นอกเหนือจาก Strictly Necessary Cookies) เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้เหมาะสมกับผู้รับบริการต่าง ๆ ได้มากขึ้นตามลักษณะและประเภทของ Cookies ดังกล่าว

    • การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาดโดยตรงของบริษัท

 

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

   บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ดังนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการไว้ (ก) ตลอดระยะเวลาการใช้บริการ และตลอดระยะเวลาที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามคำขอใดก็ตามของผู้รับบริการดังกล่าว (ข) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติคุ้มครองสิทธิของบริษัท ภายใต้อายุความสูงสุด 10 ปี (ค) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว และ (ง) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทรับประกันไม่ดำเนินการที่จะกระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกินสมควร

 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ 

  1. ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึง (i) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อผู้รับบริการ เช่น ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการระบบการชำระเงิน เป็นต้น และ (ii) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว
    ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ให้มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  2. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น โดยบริษัทจะเปิดเผยส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น

  3. บุคคลอื่น ซึ่งผู้รับบริการให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการให้แก่บุคคลดังกล่าวได้

 

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

   บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

   บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้รับบริการในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

   ทั้งนี้ ผู้รับบริการสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของผู้รับบริการให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัท อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

 

ช่องทางการติดต่อ

   บริษัทยินดีรับคำถาม ข้อร้องเรียน ความเห็นและคำขอใดๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยเฉพาะการใช้สิทธิของผู้รับบริการในฐานะเจ้าของข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่:

   ช่องทางการติดต่อ: 094-569-6667
   อีเมล: info@swmthailand.com

ดาวน์โหลดไฟล์ นโยบายความเป็นส่วนตัว

อ่านเพิ่มเติม:

เงื่อนไขการใช้งานเว็ปไซต์

เงื่อนไขการใช้บริการ

bottom of page